22 ส.ค. 2556

การจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้งาน


การจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้งาน    

     เราสามารถจัดหาซอฟต์แวร์มาใช้งาน ได้โดยเลือกซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ดังนี้
  
             1.    แบบสำเร็จรูป ( Packaged หรือ Ready – made Software ) วิธีการนี้ผู้ใช้งานสามารถที่จะเข้าไปเดินหาซื้อได้
กับตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งมักจะมีการเตรียมบรรจุภัณฑ์และเอกสาร
คู่มือการใช้งานไว้อยู่แล้ว ผู้ใช้สามารถที่จะหยิบเลือกซื้อได้เมื่อพอใจในตัวสินค้าซอฟต์แวร์นั้น ๆ และนำไปติดตั้งเพื่อใช้งานได้
โดยทันที กรณีที่ไม่สามารถเลือกซื้อผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายได้ อาจเข้าไปในเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์นั้น ๆ
 แล้วกรอกข้อมูลรายการชำระเงินผ่านแบบฟอร์มบนเว็บ เมื่อรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายชำระเงินของผู้ซื้อได้รับการอนุมัติ
ก็สามารถนำเอาซอฟต์แวร์ดังกล่าวมาใช้ได้ทันที
            2.  แบบว่าจ้างทำ (Customized หรือ Tailor-made Software )

กรณีที่บางองค์กรมีลักษณะงานที่เป็นแบบเฉพาะของตนเองและไม่สามารถนำโปรแกรมสำเร็จรูปมาประยุกต์
ใช้ได้ ก็สามารถที่จะผลิตขึ้นมาเองหรือว่าจ้างให้บุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะทำการผลิต
ซอฟต์แวร์ออกมาให้ตรงตามคุณสมบัติที่ต้องการ ซึ่งวิธีการนี้อาจมีค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างให้เขียนซอฟต์แวร์
ที่มีต้นทุนแพงกว่าแบบสำเร็จรูปอยู่พอสมควร

3.  แบบทดลองใช้   (Share ware )ในการใช้งานโปรแกรม ผู้ใช้งานอาจมีความต้องการเพียงแค่อยาก 
ทดสอบการใช้งานของโปรแกรมนั้น ๆ ก่อนว่าดีหรือไม่ และจะเหมาะสมกับงานที่ทำอยู่อย่างไรบ้าง บริษัทผู้ผลิต
จึงมักจะมีโปรแกรมเพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้งานก่อนได้ แต่อาจจะมีการกำหนดระยะเวลาทดลองใช้งานหรือ
เงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ใช้ได้ภายใน 30 วัน หรือปรับลดคุณสมบัติบางอย่างลงไป วิธีการนี้ทำให้ผู้ใช้
สามารถทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อได้ ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีให้ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต
โดยทั่วไป ซึ่งจะหาได้ตามเว็บไซต์ของผู้ผลิตโดยตรงหรือเว็บไซต์ที่ให้บริการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ

4. แบบใช้งานฟรี (Free ware)ปัจจุบันเราสามารถเลือกหาโปรแกรมที่แจกให้ใช้กันฟรี ๆ เพื่อตอบสนองกับ
การทำงานที่หลากหลายมาได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแหล่งบริการดาวน์โหลดบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมักจะ
เป็นโปรแกรมขนาดเล็กและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้ผลิตแต่อย่างใด แต่
เนื่องจากเป็นของที่ให้ใช้กันฟรี ๆ จึงอาจจะไม่มีคู่มือหรือเอกสารประกอบอย่างละเอียดเหมือนกับที่ต้องเสียเงินซื้อ เนื่องจากเป้าหมายของผู้ผลิตคือ ต้องการพัฒนาโปรแกรมเพื่อเผยแพร่ผลงานของตนเองให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
และทดสอบระบบที่พัฒนาเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะแจกให้ใช้ฟรี ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ลิขสิทธิ์
ก็ยังเป็นของบริษัทผู้ผลิตอยู่ ไม่สามารถนำไปพัฒนาต่อหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดให้ 

5. แบบโอเพนซอร์ส (Open source)ในบางองค์กรที่มีกลุ่มบุคคลผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้านการพัฒนา
ซอฟต์แวร์พอสมควร หากต้องการใช้ซอฟต์แวร์แต่ไม่ต้องการเสียเวลาในการพัฒนาที่ยาวนานจนเกินไป อาจจะ
เลือกใช้กลุ่มของซอฟต์แวร์ที่มีการเปิดให้แก้ไขปรับปรุงตัวโปรแกรมต่าง ๆ ได้เอง อีกทั้งยังไม่ถือว่าเป็น
การละเมิดลิขสิทธิ์ใด ๆ ด้วย ซึ่งบางครั้งเรียกซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ว่า โอเพ่นซอร์ส (open source ) ซึ่งผู้ใช้งาน
สามารถที่จะนำเอาโค้ดต่าง ๆ ไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ได้ตามความต้องการได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดหรือ
ระบุไว้ของผู้ผลิตดั้งเดิม 

ไม่มีความคิดเห็น: